นวัตกรรมงานผิว อันดับ 𝟏 จากเกาหลี การันตีด้วยรางวัลชนะเลิศจาก 𝐊𝐨𝐫𝐞𝐚𝐧 𝐂𝐮𝐬𝐭𝐨𝐦𝐞𝐫 𝐀𝐰𝐚𝐫𝐝 สองปีซ้อน (𝟐𝟎𝟐𝟐 และ 𝟐𝟎𝟐𝟑)หลุมสิว ผิวฉ่ำวาว รูขุมขน คอเหี่ยว ผิวเหี่ยวย่น ขาดน้ำ ใต้ตา ลึก ร่องแก้มลึก ตาแพนด้า ไม่ควรพลาด งานผิวตัวกระตุ้นคอลลาเจนอันดับ 1 ของเกาหลี อยู่นาน 1 ปีครึ่ง ในราคาเข้าถึงได้  

Juvelook (จูวีลุค) คืออะไร

Juvelook คือ Collagen Booster มีส่วนประกอบสำคัญ 2 อนุภาค ได้แก่ Poly D,L Lactic Acid (PDLLA) ร่วมกับ HA (เป็นส่วนประกอบที่มีในฟิลเลอร์) ผสมผสานกันอย่างลงตัว ช่วยให้ร่างกายกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวหนังอย่างเป็นธรรมชาติ ด้วยขนาดอนุภาคตั้งแต่ 10 ถึง 40 ไมโครเมตร

จุดเด่นของ Juvelook คือ สามารถเก็บริ้วรอยเล็กๆใต้ตา ที่สารเติมเต็มไม่สามารถเก็บรายละเอียดได้ ถือว่าเป็น Skin Booster ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเกาหลี 

PDLLA คืออะไร

Poly-D,L-lactic acid (PDLLA) คือ ไบโอพอลิเมอร์ชีวภาพ มีลักษณะเป็นวงกลมคล้ายกับฟองสบู่ ทำให้เวลาที่ฉีดลงสู่ใต้ชั้นผิวจึงไม่เกิดลักษณะเป็นก้อนหรือตกค้างในร่างกาย โดย PDLLA นี้จะมีบทบาทสำคัญในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยังให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ส่วนประกอบหลักของ Juvelook ให้ผลลัพธ์ 5 ประการ

  • Angiogenesis ความขาวใส ลดตาคล้ำ
  • PDLLA/HA Hybrid biostimulator Collagen biostimulator กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน พร้อมให้ผิวชุมชื่น ฉ่ำวาว
  • กระตุ้นคอลลาเจน Type 1 : 150% , Type 3 ; 130%
  • กระตุ้น Elastin 260%
  • Proteoglycan ความชุมชื่น

 Juvelook ปลอดภัยหรือไม่?

       ปลอดภัยแน่นอนค่ะ เนื่องจาก Juvelook เป็นสารบริสุทธิ์ที่ไม่ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม และยังเป็นไอโซเมอร์ ที่มีความเข้ากันได้ดีกับร่างกายมากที่สุดอีกด้วย 

       มีอนุภาค Spherical & Foamy shape ที่เป็นเอกลักษณ์ และได้สิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกา ทำให้มีความปลอดภัย ลดโอกาสการอักเสบ ลดโอกาสการเกิด granuloma

       และจูวีลุค ผ่านการรับรอง CE Mark, KFDA และ อย.ประเทศไทย โดยขึ้นทะเบียนเป็นเครื่องมือแพทย์แบบฉีด อีกทั้งยังได้รับรางวัลนิยมอันดับ 1 ในเกาหลี ถึง 2 ปีซ้อน (Korea Consumer Award 2022, 2023)

หลักการทำงาน Juvelook

  • Step 1 เมื่อฉีด Juvelook เข้าไปในชั้นผิวหนัง HA ก็จะเริ่มทำหน้าที่ในการเติมริ้วรอยเล็กๆบนผิวทันที จากนั้น PDLLA ช่วยเสริมให้ HA อยู่ได้นานมากยิ่งขึ้น
  • Step 2 PDLLA เริ่มทำงานช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน
  • Step 3 เมื่อ PDLLA ออกฤทธิ์เต็มที่แล้ว ปริมาณคอลลาเจนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยคืนวอลลุ่มให้กับผิวอย่างเป็นธรรมชาติ

ดังนั้นจากหลักการทำงานที่ได้กล่าวมาข้างต้นจึงเป็นคำตอบได้ว่า ผิวที่มีรอยแตกลาย ร่องลึกสามารถฉีด Juvelook เพื่อให้รอยแตกลายหรือร่องลึกดูจางลงและตื้นขึ้นได้

Juvelook เหมาะกับใคร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

นอกจาก Juvelook จะช่วยแก้ปัญหาเรื่องรอยแตกลายและเรื่องร่องลึกแล้ว ประโยชน์ที่ได้จากการสร้างคอลลาเจนยังช่วยให้

  • มีหลุมสิว
  • มีรูขุมขนกว้าง
  • มีแผลเป็นบนใบหน้า
  • มีผิวหน้าไม่สม่ำเสมอ
  • มีผิวหนังหยาบกร้าน หรือ แห้งกร้าน
  • มีริ้วรอยรอบดวงตา ร่องน้ำตา หรือ ร่องตื้น
  • มีผิวหย่อนคล้อย เนื่องจากการมีอายุที่มากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเพิ่มวอลลุ่ม ความหนาแน่นของผิวหน้า

Juvelook ช่วยอะไร?

  • เสริมสร้างคอลลาเจนให้กับผิวโดยตรง
  • เติมเต็มร่องน้ำตา และริ้วรอยรอบดวงตา
  • ริ้วรอยบริเวณลำคอ
  • ผิวกระจ่างใส รูขุมขนกระชับ
  • ลดเลือนรอยแผลเป็น ลดหลุมสิว
  • ลดเลือนรอยแตกบนผิวหนัง

Juvelook ฉีดตรงไหนได้บ้าง?

  • Skin Booster ช่วยปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนทั่วใบหน้า
  • ใต้ตา
  • ริ้วรอยรอบดวงตา
  • รอยพับที่คอ หรือเส้นพับที่คอ
  • รอยแตกหน้าท้อง
  • รอยแตกที่ก้น
  • ริ้วรอยหน้าผาก
  • รอยแมวข่วน หรือรอยแผลขีดข่วน

ฉีด Juvelook พร้อมหัตถการอื่นได้ไหม?

       สามารถทำร่วมกับการทำหัตถการประเภทอื่นได้ค่ะ

  • ประเภททรีตเมนต์แนะนำให้ทำการฉีด Juvelook ก่อนทำทรีตเมนต์หรือเลเซอร์ชนิดต่างๆ 
  • ประเภทฉีด ควรฉีดกันในคนละบริเวณ หรือควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำการฉีดร่วมกันจะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

Juvelook เห็นผลตอนไหน อยู่ได้นานเท่าไหร่?

       Juvelook แบ่งการทำงานเป็น 3 Steps

1.Physical support

       HA จะช่วยเติมเต็มริ้วรอยในทันที และเป็นการเริ่มกระตุ้นคอลลาเจน

2.Restoration

       หลังฉีดไปแล้ว 2 – 4 สัปดาห์ HA สลายไป PDLLA จะเข้าทำหน้าที่ในการกระตุ้นคอลลาเจนในระยะยาว ช่วยเสริมสร้างความยืนหยุ่นให้กับผิว ผิวแน่นกระชับขึ้น

3.Maintenance

       หลังฉีดไปแล้ว 6 เดือน PDLLA จะค่อยๆสลายไป สามารถเห็นผลลัพธ์ได้เต็มที่ จากปริมาณคอลลาเจนที่เพิ่มมากขึ้น ฟื้นคืนวอลลุ่มบนผิวหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ ผิวหน้าใสสะท้อนแสง

ควรฉีด Juvelook กี่ครั้ง?

  • การฉีด 1 ครั้ง ควรใช้ 1 vial หรือ 1 ขวด 6 cc 
  • แนะนำฉีดทั้งหมด 3 ครั้ง ห่างกัน 1 เดือน 
  • และเพื่อผลลัพธ์ที่ต่อเนื่องควร re-tratment ทุกๆ 6 – 12 เดือน

Juvelook ต่างกัน Filler อย่างไร?

  • Juvelook (จูวีลุค) เน้นงานผิว สำหรับคนมีหลุมสิว ริ้วรอยร่องตื้น อยู่ได้นาน 2 ปี
  • Filler (ฟิลเลอร์) เน้นเติมเต็มร่องลึก และปรับรูปหน้า อยู่ได้นาน 6 – 18 เดือน โดยขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่ฉีด

เปรียบเทียบ Juvelook VS Sculptra ต่างกันอย่างไร?

เมื่ออ่านมาถึงจุดนี้แล้ว หลายคนอาจสงสัยว่า Juvelook และSculptra ต่างกันอย่างไร ในเมื่อมีจุดประสงค์ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนเหมือนกัน แต่ในความจริงแล้วทั้งสองผลิตภัณฑ์นี้มีความแตกต่างกันในส่วนประกอบหลักที่ใช้ ดังนี้

  • PDLLA ที่อยู่ใน juvelook มีขนาดโมเลกุลที่ค่อนข้างเล็ก เน้นช่วยเรื่องงานผิว
  • PLLA ที่อยู่ใน Sculptra จะมีโมเลกุลที่ใหญ่กว่า จะเน้นช่วยเรื่องการยกกระชับ

เปรียบเทียบ Juvelook VS Rejuran ต่างกันอย่างไร ?

Juvelook เป็น Advanced Hybrid PLA Biostimulator ตัวกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใช้ช้นผิวชนิดหนึ่ง ทำหน้าที่เติมเต็มร่องน้ำตา และริ้วรอยรอบดวงตา ริ้วรอยบริเวณลำคอ ผิวกระจ่างใส ปรับรูขุมขนให้กระชับ  ลดเลือนรอยแผลเป็น ลดเลือนรอยแตกบนผิวหนัง และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เห็นผลลัพธ์ได้ทันที ปลอดภัย เข้ากันได้ดีกับร่างกาย เติมเต็มอย่างป็นธรรมชาติ สัมพัสเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน ไม่บวม ไม่อักเสบ ไม่ต้องนวด ส่งผลให้ผิวดูอิ่มฟู แข็งแรง มีชีวิตชีวา

สำหรับ Rejuran จะเป็นสารสกัดเข้มข้นจากปลาแซลมอน ที่นำมาสกัดสารที่เรียกว่า Polynucleotide (PN) ซึ่งจะเป็นสารที่มีความใกล้เคียงกับ DNA ของมนุษย์มากที่สุด โดยจะช่วยเร่งขบวนการฟื้นฟูและซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสียหาย กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอิลาสติน ทำให้ผิวแข็งแรง มีความชุ่มชื้น กระจ่างใส และเรียบเนียนขึ้นค่ะ

ผลข้างเคียงหลังการฉีดโปรแกรม JUVELOOK ?

หลังการฉีดโปรแกรม JUVELOOK อาจจะมีรอยนูน รอยช้ำ บวม และรอยแดง จากเข็มและตัวยา ได้หลังจากการฉีด โดยเป็นอาการปกติของการทำหัตถการ ซึ่งอาการเหล่านี้ จะเป็นอาการที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หลังจากทำเสร็จเพียงเท่านั้น และจะหายไปภายใน 2 – 3 วันเท่านั้น

  • ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวยาแท้ ตรวจสอบได้
  • ทีมแพทย์ผ่านการเทรนจากบริษัทโดยตรง
  • รางวัลการันตีมากมาย ระดับประเทศ มั่นใจในประสบการณ์ของทีมแพทย์

TAGS ของบทความนี้

© 2024  Marsha’s clinic