ฟิลเลอร์หน้าผาก คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การฉีดสารเติมเต็มชนิดไฮยาลูรอนิก Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณหน้าผาก มักจะไม่ใช่จุดแรกที่หมอแนะนำในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้า เนื่องจากต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์หลาย cc เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เมื่อเทียบกับการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา-ร่องแก้ม ที่ใช้ 1-2 cc จะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจนมากกว่า แต่การเติมฟิลเลอร์หน้าผาก ก็มีส่วนช่วยสำคัญในการปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนสวยเข้ารูปมากขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีไหม ช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคือการฉีดสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) เข้าไปบริเวณหน้าผาก เพื่อช่วยแก้ไขหน้าผากที่มีปัญหาอย่างเช่น มีริ้วรอยที่หน้าผาก หน้าผากแบน เติมเต็มให้หน้าผากได้รูปสวยงาม และยังปรับให้ตรงตามโหงวเฮ้งได้อีกด้วย
เมื่อฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้นและดูแลแผลนานเหมือนการผ่าตัด อีกทั้งยังสามารถปรับความนูนได้โดยไม่ต้องผ่าตัดใหม่ด้วยการเติม หรือฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ถ้ารู้สึกว่านูนเยอะเกินไปหรือไม่ชอบทรงค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเหมาะกับใคร

  • ผู้มีปัญหาหน้าผากเป็นแอ่งยุบลงไปบริเวณเหนือคิ้ว
  • ผู้ที่มีปัญหาหน้าผากแบน แคบ
  • ผู้ที่มีปัญหาหน้าผากเป็นคลื่นไม่เรียบ และมีริ้วรอยหน้าผาก
  • ผู้ที่ต้องการปรับทรงหน้าผากให้ตรงตามหลักโหงวเฮ้ง
  • ผู้ที่ยังไม่ต้องการผ่าตัดหน้าผาก

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากใช้กี่ CC

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกี่ cc นั้นขึ้นอยู่กับบริเวณที่ฉีด หากต้องการแก้ไขบริเวณเหนือคิ้วที่ยุบตัว หรือริ้วรอยร่องลึกที่หน้าผาก หมอจะแนะนำให้ใช้ 1-2 cc หากต้องการให้หน้าผากโหนกนูน หรือเสริมโหงวเฮ้งจะใช้ประมาณ 3-10 cc

แต่หมอแนะนำให้ฉีดแค่ 3-5 cc ก่อนแล้วค่อยเติมเพิ่มนะคะ เพราะถ้าฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากเกิน 5 cc ในแต่ละครั้ง อาจเกิดการกดทับเนื้อเยื่อทำให้เกิดอาการบวมรอบดวงตาได้ แม้จะหายเอง 14 วัน แต่ก็กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันในช่วงนั้นได้

ฟิลเลอร์หน้าผากกี่วันเห็นผล

หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากสามารถเห็นผลได้ทันที แต่จะมีรอยแดงเป็นจุดเล็กๆ จากเข็มประมาณ 3 – 5 วัน และมีอาการบวมจากการฟิลเลอร์ร่วมด้วยต้องใช้เวลาประมาณ 7 – 14 วันอาการบวมถึงจะหายไป หลังจากนั้นฟิลเลอร์ก็จะเข้าที่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น ซึ่งผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายไหม

หน้าผากเป็นจุดที่เชื่อมต่อกับขมับ และมีเส้นเลือดเชื่อมกับดวงตาเยอะ ทั้งยังต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์มากกว่าจุดอื่นในบริเวณใบหน้า การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจึงมีโอกาสที่ฟิลเลอร์จะเข้าไปอุดตันในเส้นเลือดทำให้เนื้อตายหรือตาบอด เนื่องจากไม่มีเลือดมาเลี้ยงผิวหนังบริเวณนั้นนอกจากนี้ยังมีโอกาสที่หลังจากฉีดฟิลเลอร์หน้าผากแล้วหน้าผากเป็นคลื่นไม่เรียบเนียน หรือหน้าผากเป็นก้อนทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ เนื่องจากหมอมีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากไม่เพียงพอ จึงทำให้ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่าที่ควร

ดังนั้นควรฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เพื่อป้องกันความผิดพลาดและสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันเมื่อเกิดเหตุสุดวิสัย โดยหมอจะฉีดยาสลายฟิลเลอร์ให้ผิวกลับมาเป็นปกติดังเดิม และเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐานสามารถเช็คได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้ เพราะถ้ากับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือใช้ฟิลเลอร์ปลอมจะไม่สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้ทำให้การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากอันตรายเพิ่มขึ้น

ทำไมบางคนที่ฉีดหน้าผากแล้ว เป็นก้อน เป็นคลื่น ไหลย้อย ?

ฟิลเลอร์หน้าผาก ต้องฉีดด้วยเทคนิคที่ถูกต้องในชั้นเยื่อหุ้มกระดูกเท่านั้น ผลลัพธ์ที่ได้จึงจะดูเป็นธรรมชาติและคงตัว เป็นการเสริมกระดูกขึ้นมา คนไข้ที่ฉีดหน้าผากด้วยเทคนิคนี้เมื่อแตะที่ผิวหน้าผากจะไม่ยวบยาบ คลำไม่เจอฟิลเลอร์แท้ที่เป็นเนื้อนิ่ม ๆ เพราะฟิลเลอร์จะอยู่ในชั้นใต้เยื่อหุ้มกระดูก ที่เราคลำได้จะเป็นแผ่นเยื่อหุ้มกระดูกแข็ง ๆ ที่ถูกฟิลเลอร์ดันให้ยกขึ้น ผิวหน้าผากที่มองเห็นจะเรียบเนียนไม่เป็นคลื่น หากฉีดในชั้นที่ตื้นขึ้นมาจะอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ สังเกตได้จากเมื่อแตะดูจะคลำได้เนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ๆ ที่หน้าผาก เพียงกดเบา ๆ เนื้อฟิลเลอร์ก็จะยุบหรือไหลได้ เมื่อเวลาผ่านไปฟิลเลอร์จะโดนกล้ามเนื้อที่ใช้ยักคิ้วดึงมากองรวมเป็นก้อน และทำให้ไหลย้อยลงหรือเป็นคลื่นได้ ถึงแม้จะใช้ฟิลเลอร์แท้ก็ตาม

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมานูนเกินไป สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ?

หากฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก แล้วนูนเกินไป อยากแก้ไข สามารถทำได้ ในปัจจุบันมีตัวยาฉีดสลายฟิลเลอร์ hyalunidase ที่สามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย แต่ถ้าหากปัญหามาจากการฉีดฟิลเลอร์ปลอม หรือฟิลเลอร์ที่ไม่ใช่ HA การแก้ไขจะต้องใช้การขูดฟิลเลอร์ออกค่ะ

ฟิลเลอร์หน้าผาก สลายได้ไหม ?

ฟิลเลอร์แท้ Hyaluronic Acid เมื่อฉีดแล้วจะสลายไปเองตามธรรมชาติ แล้วแต่ระยะเวลาของฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อ แต่ถ้าหากอยากได้ความรวดเร็ว ก็สามารถสลายได้โดยใช้ เอนไซม์ Hyaluronidase ละลายออกได้หมด 100% ทำให้ผิวกลับคืนสภาพเดิมได้ค่ะ

ข้อดีและข้อควรระวัง ของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ข้อดี

  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผล ใช้เวลาทำไม่นาน
  • เจ็บน้อยกว่าการผ่าตัด เห็นผลชัดเจนใน 1-2 สัปดาห์
  • สามารถเพิ่ม-ลด ความนูน ออกแบบได้ตามต้องการ
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้อยู่ได้ 1 ปี และทยอยเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ
  • หากต้องการแก้ไขก็สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้

ข้อควรระวัง

  • ฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่สามารถอยู่ได้ถาวร จะสลายไปเองตามธรรมชาติ
  • ในการฉีด 1 ครั้ง ไม่ควรใช้ฟิลเลอร์หน้าผากเกิน 5 cc
  • ต้องฉีดด้วยฟิลเลอร์แท้เท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
  • ถ้าฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มากพอ มีความเสี่ยงจะเกิดอันตรายได้

ข้อควรปฏิบัติก่อนและหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

ข้อควรปฏิบัติก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ร่วมกับบริเวณที่ต้องการฉีด
  • เลือกคลินิกและแพทย์ที่น่าไว้ใจและได้มาตรฐาน
  • งดดื่มแอลกอฮอล์ 1-3 วันก่อนฉีด
  • งดยาแอสไพริน และกลุ่มยาต้านการอักเสบ NSAIDS 2 สัปดาห์ก่อนฉีด เพื่อป้องกันการฟกช้ำ
  • งดวิตามินที่ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น น้ำมันปลา วิตามินอี เป็นต้น
  • ควรทำความสะอาดใบหน้าหรือบริเวณที่ฉีดก่อนพบแพทย์

ข้อควรปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

  • หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำหน้า นอนตะแคง และระวังไม่ให้เกิดการกดทับบริเวณหน้าผาก 7-14 วัน หรือจนกว่าฟิลเลอร์จะเข้าที่ เพื่อหลีกเลี่ยงฟิลเลอร์ย้ายตัวหรือเคลื่อนตำแหน่ง
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องพบเจอความร้อน 1 เดือน เช่น เลเซอร์ ซาวน่า
  • ดื่มน้ำให้มากๆ ช่วยให้ฟิลเลอร์อยู่ได้นาน
  • งดแต่งหน้า 1 วัน หากเลี่ยงไม่ได้ให้แต่หน้าเบาๆ เพื่อลดการสัมผัสใบหน้า
  • งดดื่มแอลกอฮอล์และของหมักดอง เพื่อป้องกันการอักเสบ
  • ประคบเย็นหากมีการบวมช้ำ
  • งดออกกำลังกายแบบหนักๆ 48 ชม. หลังฉีด

ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่ควรนอนคว่ำหน้าหรือนอนตะแคง ต้องระวังไม่ให้เกิดการกดทับบริเวณหน้าผากที่ฉีดฟิลเลอร์มา ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ กลมกลืนไปกับเนื้อเยื่อปกติของผิวและมีความคงตัวมากขึ้น ไม่เปลี่ยนรูป ไม่เสียทรง

ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บวมกี่วัน ?

หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะมีอาการบวมได้เป็นปกติ และจะหายไปเองใน 7-14 วันค่ะ สามารถทานยาแก้ปวดได้ตามอาการ

TAGS ของบทความนี้

© 2024  Marsha’s clinic