ร้อยไหมคืออะไร?

ร้อยไหม คือ วิธีการยกกระชับผิว โดยใช้ไหมละลายใส่เข้าไปใต้ชั้นผิว เงี่ยงไหมจะยึดเกาะกับชั้นผิวและดึงยกกระชับขึ้นตามตำแหน่งที่ต้องการ ซึ่งการร้อยไหมสามารถแก้ไขใบหน้าที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้อีกด้วย

ร้อยไหม ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่เน้นในเรื่องของการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ โดยสามารถแก้ไขความหย่อนคล้อยของผิวได้หลากหลายตำแหน่ง และยังแก้ไขปัญหาอื่นๆ ได้นอกจากความหย่อนคล้อย ได้แก่

  • ร้อยไหมหน้าเรียว ช่วยปรับรูปหน้าให้กระชับ กรอบหน้าชัด ใบหน้าเรียวได้สัดส่วน
  • ร้อยไหมยกมุมปาก ยกกระชับกระเปาะไขมันช่วงมุมปากให้กระชับ ร่องน้ำหมากดูดีขึ้น
  • ร้อยไหมร่องแก้ม ยกกระชับผิวช่วงหน้าแก้มที่หย่อนเกิดเป็นรอยพับร่องแก้ม ทำให้ร่องแก้มดูดีขึ้น
  • ร้อยไหมเหนียง แก้ปัญหาเหนียงที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น เห็นแนวกระดูกกรามชัดขึ้น
  • ร้อยไหมยกหางตา แก้ปัญหาหนังตาตก ยกหางคิ้ว หางตาขึ้น
  • ร้อยไหมจมูก ช่วยปรับสันจมูกให้ดูโด่งขึ้น ลดขนาดปีกจมูก
  • ร้อยไหมคอลลาเจน กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณชั้นผิว ทำให้ผิวเรียบเนียน อิ่มฟู ลดเลือนริ้วรอย

การร้อยไหมเหมาะกับใครบ้าง?

การร้อยไหม เหมาะกับคนที่อยากยกกระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น มีปัญหาแก้มหย่อนคล้อย รวมถึงช่วยลดริ้วรอย โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลรวดเร็วค่ะ 

  • เหมากับคนที่มีอายุ 20 ปี ขึ้นไป
  • คนที่ยังไม่พร้อมทำศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า
  • มีปัญหาแก้มตอบ แต่ไม่อยากเติมฟิลเลอร์
  • ใบหน้าหย่อนคล้อย อยากยกกระชับ
  • อยากปรับรูปหน้าให้ดู เรียว V-Shape 

การร้อยไหมไม่เหมาะกับผู้ที่ 

  • มีปัญหาผิวหนึงติดเชื้อบริเวณรูเปิดไหม
  • เคยฉีดสารเหลวหรือซิลิโคนเหลวบริเวณใบหน้า
  • เคยมีประวัติแพ้ส่วนประกอบของวัสดุเส้นไหม ที่วินิจฉัยว่าแพ้โดยแพทย์ หากมีอาการข้างเคียง (Side Effect) อื่น ๆ ไม่ได้ถือว่าเป็นการแพ้ (Allergy)
  • มีประวัติแพ้ยาชา (หากคนไข้ไม่เคยฉีดยาชาทำฟันมาก่อน ควรแจ้งแพทย์เพื่อเพิ่มความระมัดระวังในการใช้ยาชา)
  • มีภาวะเลือดไหลไม่หยุด (Bleeding Disorder) แพทย์จะพิจารณาว่าสามารถร้อยไหมได้หรือไม่ ตามดุลยพินิจ
  • ห้ามร้อยไหมในผู้ที่ตั้งครรภ์
  • ในกรณีให้นมบุตรควรปรึกษาสูติแพทย์ที่ดูแลก่อนร้อยไหม 
  • มีปัญหาแก้มตอบ แต่ไม่มีไขมันเลย
  • มีไขมันบริเวณใบหน้าเยอะเกินไป ควรฉีดแฟตสลายไขมันก่อน 
  • มีกล้ามเนื้อกรามที่ใหญ่เกินไป ควรฉีดลดกรามก่อน

นอกจากนี้การร้อยไหม ยังสามารถทำร่วมกับหัตถการอื่นๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เช่นฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ ไฮฟู่ หรือแฟต โดยควรปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการรักษาร่วมกันค่ะ

ร้อยไหมอันตรายไหม มีข้อดี ข้อควรระวังอะไรบ้าง ?

ร้อยไหม ไม่อันตรายค่ะ  ถ้าหากร้อยด้วยวิธีที่ถูกต้อง และใช้ไหมละลายที่ผ่านการรับรองจาก อย. รวมไปถึงเทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ ก็เป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย เมื่อเวลาผ่านไป 6-18 เดือน เส้นไหมก็จะละลายไปโดยไม่เป็นอันตราย การร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องก็จะเกิดเป็นเส้นใยอิลาสตินช่วยประคองผิว คล้ายเส้นเอ็นที่มีอยู่ตามธรรมชาติของร่างกายค่ะ

ข้อดีของการร้อยไหม

  • เห็นผลทันทีหลังทำ
  • ไม่ต้องพักฟื้น
  • ไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
  • ปลอดภัยไม่มีสารตกค้าง 
  • ปรับรูปหน้าให้สมดุลแก้ปัญหา ใบหน้าหย่อนคล้อย แก้มตอบ ร่องแก้ม 

ข้อควรพึงระวังของการร้อยไหม

  • อาจเกิดอาการบวม ช้ำ แต่จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองใน 7 – 14 วัน
  • ไม่สามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึกได้ 
  • ร้อยถี่จนเกินไป อาจทำให้เกิดพังผืดได้ 
  • อาจเกิดคลื่นไหมหรือริ้วไหมได้ แต่จะหายเองได้หลังไหมกลืนเข้ากับผิว

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีควรเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อลดโอกาสเกิดอาการบวมช้ำและอาการข้างเคียงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการร้อยไหม รวมไปถึงหลังร้อยไหมควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยยกกระชับยาวนานมากยิ่งขึ้น

ร้อยไหมมีกี่แบบ ?

การร้อยไหมเป็นเทคนิคยกกระชับที่จะช่วยแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อยให้กระชับขึ้น กรอบหน้าดูชัด ใบหน้าดูเรียวขึ้น และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เห็นผลทันทีหลังทำ

ในปัจจุบันการร้อยไหมจะแบ่งเป็น 2 แบบ หลักๆ คือไหมละลาย และไหมไม่ละลาย

  • ไหมละลาย  สามารถสลายได้เองตามกลไกธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้าง ในปัจจุบันเป็นที่นิยมใช้อย่างแพร่หลาย ซึ่งหลายคนอาจจะคุ้นชื่อกันมาบ้างแล้ว เช่น ไหมก้างปลา ไหมมิ้นท์ ไหมโครงตาข่าย
  • ไหมไม่ละลาย  เคยเป็นที่นิยมในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันไม่ได้เป็นที่นิยมแล้ว เนื่องจากไหมชนิดนี้ไม่สามารถผ่านเครื่อง CT Scan หรือ MRI ได้ และยังไม่สามารถทนความร้อนสูง ซึ่งอาจทำให้รูปทรงบิดเบี้ยวได้ ทั้งยังไม่สามารถสลายได้เองตามกลไกของร่างกาย เช่น ไหมพลาสติก ไหมทองคำ

ร้อยไหมมีกี่ชนิด ?

  • ไหมก้างปลา หรือไหม COG 

เงี่ยงไหมซี่เล็กเรียงตัวรอบเส้นไหม สามารถยกกระชับผิวได้ แต่ไม่เหมาะกับผิวที่หลวมเหลวขาดคอลลาเจน มีปลายเข็มแหลมอาจเกิดการบวมช้ำได้มากกว่าชนิดอื่น แต่ในเคสที่มีพังผืดบนใบหน้าเยอะจนไหมปลายทู่ผ่านผิวได้ยาก ไหมตัวนี้ถือเป็นตัวเลือกที่ดีตัวนึงค่ะ

  • ไหม Double COG 

จะคล้ายๆกับไหม COG แต่มีความหนากว่า นิยมใช้ร้อยยกหางตา หรือ Foxy eyes มีแรงยกกระมาก ช่วยลดริ้วรอยและรอยตีนกา เหมาะสำหรับผู้ที่มีหางตาตก สามารถใช้เพื่อปรับโหงวเฮ้งได้ 

  • ไหม Molding หรือไหมหล่อ 

 เป็นเส้นไหมที่หล่อเงี่ยงขึ้นมาพร้อมกับเส้นไหม หรือหล่อลายสลักเส้นไหม ทำให้มีความแข็งแรงสูงมาก และสามารถยกกระชับใบหน้าได้ดี เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยมาก ตอบโจทย์การร้อยไหมยกกระชับปรับโครงหน้า แก้ปัญหาร่องแก้ม เก็บกรอบหน้า ปรับรูปหน้าสวยกึ่งถาวร เสมือนการดึงหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด อยู่ได้นานถึง 2 ปี มีแรงดึงเยอะ ยกได้มากกว่า 

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหลังร้อยไหม

  • เกิดริ้วไหม หรือ รอยรั้งไหม

ปัญหานี้สามารถพบได้เป็นปกติ มีลักษณะเป็นรอยบุ๋ม ยุบลงไปบนใบหน้า หรือรอยคลื่น เป็นชั้นๆ บริเวณที่ร้อยไหมไป ซึ่งเกิดจากการดึงไหมเพื่อช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยขึ้น แต่เมื่อไหมเริ่มเซ็ตตัวเข้ากับผิวหน้าของเราแล้ว รอยต่างๆ ก็จะค่อยๆ ตื้นขึ้น จนเรียบเป็นผิวปกติ โดยจะใช้เวลาประมาณ 4 สัปดาห์ 

แต่ในกรณีที่รอยบุ๋มที่เกิดร่วมกับเห็นเส้นไหมชัดบนชั้นผิว ลักษณะนี้เกิดจากการร้อยไหมผิดชั้น ตื้นจนเกิดไป แนะนำปรึกษาแพทย์เพื่อทำการแก้ไขค่ะ ซึ่งถ้าปล่อยไว้อาจเกิดแผลเป็นในผิวชั้นบนได้ค่ะ

  • อาการไหมขาด

เมื่อไหมขาดจะได้ยินเสียงของไหมดัง “เปี๊ยะ” แล้วจะรู้สึกว่าไหมดีดหน้า มีการเจ็บแปล๊บบริเวณนั้น ในบางรายอาจจะมีอาการร้าวได้เลย และในกรณีที่ไหมขาดดีดมาโดนเส้นเลือดก็จะทำให้เกิดรอยช้ำม่วงๆ ได้

  • อาการไหมเคลื่อน

สามารถสังเกตได้จากผิวของเราค่อยๆ คล้อยลงมาเล็กน้อย อาจมีเสียงของไหมดัง “กึ๊ก” หลังจากแสดงสีหน้าแรงๆ แล้วไหมมีการเคลื่อนลงมา หลังจากไหมเคลื่อนอาจมีอาการเจ็บหรือเขียวช้ำขึ้นมาที่ผิวบริเวณนั้นได้ ทั้งอาการไหมเคลื่อนและไหมขาดนี้เกิดขึ้นจากการที่เราแสดงสีหน้าแรงๆ การเคี้ยวอาหารแรงจนเกินไป ดังนั้นเพื่อรักษาใบหน้าของเราให้ยกกระชับสวยได้ในระยะยาวนั้นควรดูแลผิวหน้าอย่างระมัดระวัง

ร้อยไหมไปแล้ว ใบหน้าดูหย่อนลงมาไว

 ในบางเคสที่อาจจะเจอกับปัญหาที่ไหมไม่ยก โดยต้องทำความเข้าใจก่อนได้ว่า ในการร้อยไหมแต่ละครั้งคุณหมอจะยกกระชับใบหน้าของเราขึ้นให้ได้มากที่สุด แต่ไหมจะเซ็ตตัวกับผิวของเราโดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ทำให้ในช่วงเวลาที่ไหมยังไม่เซ็ตตัวกับผิวของเรานั้น ไหมมีโอกาสที่จะเคลื่อนลงมาได้เสมอ  ยิ่งมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามากระตุ้น เช่น การแสดงออกทางสีหน้าแรงๆ ก็จะทำให้ไหมเคลื่อนลงมาได้ง่ายมากขึ้น ดังนั้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ออกมาดูดี สวยเป๊ะในระยะยาวจึงควรดูแลใบหน้าของเราหลังการทำให้ดีที่สุด และอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้กลับมาหย่อนคล้อยไว คือ เนื้อเยื้อบริเวณที่เงี่ยงไหมเกาะอยู่เสื่อมสภาพลง ผิวขาดอิลาสติน (Elastin) ซึ่งเป็นตัวที่ช่วยให้ผิวหนังมีความยืดหยุ่น ทำให้เงี่ยงไหมไม่สามารถเกาะกับผิวได้นาน ผิวจึงหย่อนคล้อยลงมาได้เร็ว  แต่ในบางเคสที่เนื้อเยื่อมีการสร้างอิลาสตินได้มาก ก็จะทำให้ไหมเกาะกับผิวได้ดีและนานมากยิ่งขึ้น ดังนั้นพอผ่านไป 6 เดือน แนะนำให้กลับมาร้อยซ้ำ เพื่อเพิ่มตัวอิลาสตินที่ทำให้ผิวเกิดการยกกระชับอยู่ได้นานมากขึ้น หรือทำเลเซอร์ยกกระชับผิวเสริมชั้นคอลลาเจนใต้ผิว ร่วมกับการร้อยไหมเพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น

หลังร้อยใบหน้าไม่ยก หรือไม่เห็นความเปลี่ยนแปลง

ในกรณีที่หลังร้อยแล้วไม่เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น 

  • ใช้ชนิดของไหมไม่เหมาะสมกับปัญหา 
  • ไหมไม่มีคุณภาพหรือความแข็งแรง
  • จำนวนเส้นไหมที่ใช้ไม่เพียงพอต่อปัญหา
  • แพทย์ที่ร้อยขาดประสบการณ์ 

ร้อยไหมแล้วหน้าบวม 14 วัน เกิดจากอะไร ?

  • เนื้อแก้มเยอะ หรือดึงเยอะเกินไป
  •  การดึงไหมผิดแนว
  • การอักเสบติดเชื้อ
  • บวมเลือด, บวมน้ำ

ข้อปฏิบัติตัว ก่อน-หลัง ร้อยไหม เพื่อรักษาผลลัพธ์ให้อยู่ได้นานขึ้น

ก่อนร้อยไหม

  • ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เพื่อวางแผนการรักษา
  • เมื่อปรึกษาแพทย์เรียบร้อยแล้ว ถ้าพร้อมก็สามารถร้อยไหมได้เลยค่ะ ควรแจ้งประวัติการแพ้ยา วิตามินและยาที่ทานประจำ (ก่อนร้อยไหมควรงดยาและวิตามิน เช่น แอสไพริน, NSAIDs, ginseng และ Vitamin E)
  • 24 ชั่วโมงก่อนร้อยไหม ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด
  • ทางคลินิกจะมีการฉีดยาชาให้ก่อนร้อยไหม

การดูแลตัวเอง หลังร้อยไหม

  • หลังร้อยเสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ ในจุดที่ร้อยไหมได้เป็นปกติ หายไปเองใน 2-3 วัน ห้ามแกะ เกา หรือกดนวด
  • ทางคลินิกจะมีการจ่ายยาแก้ปวด ลดบวมให้
  • ช่วง 3 วันแรก ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะ อาจทำให้ไหมเคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
  • งดยิงเซเลอร์ร้อน และหัตถการอื่นๆ ที่ใช้ความร้อน เป็นเวลา 2 เดือน

ในการดูแลตัวเองหลังร้อยไหม เพื่อให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น ข้อสำคัญคือควรปฏิบัติตามข้อแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เกี่ยวกับความร้อนและควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และการสัมผัสใบหน้า

ร้อยไหม กี่วันเห็นผล ?

การร้อยไหมยกกระชับใบหน้า จะเห็นผลทันทีหลังทำ และเห็นผลชัดเจน สวยเข้ารูปใน 1 เดือน หากมีอาการบวม จะหายไปเองใน 14 วัน

ร้อยไหม เจ็บไหม ?

ระหว่าง ร้อยไหม คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บค่ะ เพราะก่อนทำจะมีการฉีดยาชาให้ก่อน อาจจะรู้สึกตอนที่หมอกำลังร้อยไหมเข้าไป เป็นเรื่องปกติค่ะ

ร้อยไหม ใช้เวลานานหรือไม่ ?

การร้อยไหมใช้เวลา 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับจำนวนไหมที่ใช้ร้อย และเทคนิคของแพทย์ด้วยค่ะ

ถ้าไม่ร้อยไหมซ้ำ ทำให้หน้าเหี่ยวจริงไหม ?

ไม่จริงค่ะ  เมื่อไหมละลายไปแล้วก็ยังเหลือเส้นใย elastin ที่จะช่วยประคองผิวไว้ ถ้าร้อยไหมด้วยเทคนิคที่ถูกต้องจะทำให้ผิวกระชับกว่าก่อนร้อยแน่นอน

สรุป

การร้อยไหม ถือเป็นหัตถการที่ปลอดภัยและเห็นผลลัพธ์รวดเร็ว ช่วยแก้ปัญหาแก้มหย่อน แก้มย้อย ผิว กรอบหน้าไม่กระชับ ได้เป็นอย่างดีโดยไม่ต้องผ่าตัด แต่ก็ควรปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินปัญหานั้นๆ ก่อนทำทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและปลอดภัย

TAGS ของบทความนี้

© 2024  Marsha’s clinic